ผักปลัง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Basella alba) เป็นพืชผักพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย นิยมปลูกเพื่อใช้ประกอบอาหารและยังมีสรรพคุณทางสมุนไพรอีกด้วย ผักปลังมีชื่อเรียกในท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น “ผักปั๋ง” หรือ “ผักปลังขาว”
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- ลำต้น: เป็นพืชเลื้อยหรือล้มลุก มีลำต้นอวบน้ำ สีเขียวหรือสีม่วงแดง ยาวได้ถึง 10 เมตร
- ใบ: ใบเดี่ยว รูปหัวใจหรือรูปไข่ ขอบเรียบ สีเขียวเข้ม ผิวใบมัน
- ดอก: ออกเป็นช่อบริเวณซอกใบ ดอกเล็กสีชมพูอ่อนหรือขาว
- ผล: ผลกลมเล็ก สีม่วงดำเมื่อสุก ภายในมีเมล็ดเล็กหนึ่งเมล็ด
สรรพคุณทางยา
ผักปลังเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในตำรับยาแผนไทยหลากหลาย สรรพคุณที่โดดเด่น ได้แก่:
- ช่วยระบาย: ใบและยอดอ่อนมีสารเมือกธรรมชาติ ใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูก
- บำรุงผิว: สารเมือกจากใบช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ใช้พอกผิวเพื่อบรรเทาอาการผื่นคัน
- แก้อักเสบ: ใช้ใบสดตำพอกบริเวณที่มีแผลหรืออาการอักเสบ
- แก้ร้อนใน: ยอดอ่อนนำมาต้มดื่มช่วยลดอาการร้อนในและเสริมภูมิคุ้มกัน
- ลดไข้: ใช้รากต้มน้ำดื่มเพื่อช่วยลดไข้
การใช้ประโยชน์ในอาหาร
ผักปลังมีเนื้อสัมผัสกรอบ อวบน้ำ จึงนิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น:
- ต้มจิ้มน้ำพริก
- แกงจืด
- ลวกใส่ในสลัด
- ทำแกงเลียง
การปลูกและดูแล
- ผักปลังเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่มีความชื้นและแสงแดดเพียงพอ
- ปลูกง่ายด้วยการปักชำกิ่งหรือเพาะเมล็ด
- ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ และจัดค้างหรือไม้พยุงเพื่อช่วยให้พืชเลื้อยเติบโต